นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

4 พฤศจิกายน 2567

บริษัท เมตา พีเพิล จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ/เรา”) มีความมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่านอย่างปลอดภัย การแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับนโยบายนี้ ให้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรักษา เกี่ยวกับการให้บริการงานบุคคล การดำเนินงานในกระบวนการสรรหา ระหว่างการจ้างงาน และหลังจากที่บุคคลเหล่านี้ได้ออกจากบริษัทฯ ซึ่งจะอธิบายให้เห็นว่าบริษัทฯ ได้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร ข้อมูลที่บริษัทฯ ได้ขอจัดเก็บจากท่าน รวมถึงจากบุคคลที่สาม ทำไมบริษัทฯ จึงจัดเก็บ บริษัทฯ ทำอะไรกับข้อมูล เพื่ออะไร และบริษัทฯ มีการรักษาปกป้องข้อมูลนี้อย่างไร

1. นโยบายนี้มีผลบังคับใช้กับใครบ้าง

นโยบายนี้ครอบคลุมถึงบุคลากรของบริษัทฯ ได้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานปัจจุบัน รวมถึง ผู้สมัครงาน อดีตพนักงาน และคู่ธุรกิจหรือบุคคลใด ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ตัวอย่างเช่น บุคคลในครอบครัวของพนักงาน บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน

2. ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมโดยไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ที่ถึงแก่กรรม อาทิเช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์ ไอดีไลน์ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ประวัติการทำงาน เป็นต้น

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ถูกเก็บโดยบริษัทฯ ซึ่งท่านมีมีสัญญาการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับท่าน สัญญาจ้างงาน หรือมีความสัมพันธ์ หรือที่ท่านเคยทำงานอยู่ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเกี่ยวกับท่านนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บทบาท และสถานะของท่านว่าเป็น ผู้รับบริการ ,ผู้ว่าจ้าง ,ผู้สมัครงาน พนักงานปัจจุบัน หรืออดีตพนักงาน โดยบริษัทฯ ได้จัดเก็บข้อมูลของท่านเท่าที่มีความจำเป็น และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป ทั้งนี้ได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บไว้ ดังนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

รายละเอียด

ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน

ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น รูปถ่าย เลขที่ประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่ประกันสังคม เลขที่ใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่บัญชีธนาคาร เลขทะเบียนรถยนต์ ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด อายุ สถานะภาพการสมรส สถานะภาพทางทหาร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ทักษะความสามารถ ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลอื่น ๆ ที่ปรากฎในใบสมัครงานสำหรับพิจารณาตำแหน่งงานและการยืนยันตัวบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน

ได้แก่ ข้อมูลสุขภาพ ลายนิ้วมือ ประวัติอาชญากรรม

ข้อมูลบุคคลที่สาม

ได้แก่ คู่สมรส สมาชิกในครอบครัว บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ โดยจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล อันได้แก่ ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลอื่น ๆ เท่าที่จำเป็น

ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการจ้างงาน

ได้แก่ รหัสพนักงาน ตำแหน่งงาน สังกัด สถานภาพการเป็นพนักงาน วันที่เริ่มงาน วันที่สิ้นสภาพการเป็นพนักงาน อายุงาน ผลการปฏิบัติงาน อัตราเงินเดือน ประวัติการมาทำงาน การทำงานล่วงเวลา สถิติการลา การฝึกอบรม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การเบิกใช้สวัสดิการ เหตุผลการลาออก การประเมินผลงาน การปรับตำแหน่งงาน การลงโทษ

4. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านอย่างไร

 4.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง

โดยส่วนใหญ่ บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากการ ให้บริการ กระบวนการสรรหาและรับสมัครงาน รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ เกี่ยวกับสัญญาบริการ สัญญาจ้างงาน และการจ้างงาน ทั้งนี้ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจะได้รับข้อมูลจากบุคคลที่สาม ในกรณีต่าง ๆ

4.2 เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวท่านเอง และบุคคลอื่น

ข้อมูลส่วนบุคคลของตัวท่านเอง และบุคคลอื่น ที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ ท่านอาจจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลอื่นด้วย เช่น บุคคลใกล้ชิดในครอบครัวของท่าน ซึ่งบริษัทฯ ใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อดำเนินการบริหารงานด้าน งานบุคคล ตัวอย่างเช่น การดำเนินการเรื่องการจัดการสวัสดิการด้านการจ้าง หรือ ติดต่อญาติพี่น้องของท่านในกรณีฉุกเฉิน

4.3 บริษัทฯ อาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากองค์กรอื่น

บริษัทฯ อาจจะรวบรวมข้อมูลของท่านจากองค์กรอื่นเพื่อกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน ตัวอย่างเช่น การขอข้อมูลเพื่ออ้างอิงจากนายจ้างเก่าของท่าน และการเช็คประวัติส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต

 5. วัตถุประสงค์และฐานในการดำเนินการประมวลผลข้อมูล

บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการ ที่ชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรม ภายใต้ฐานการประมวลผล ดังต่อไปนี้

5.1 เพื่อการปฏิบัติตามพันธะสัญญาบริการ สัญญาจ้างงานระหว่างท่านกับบริษัทฯ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนที่จะเข้ามาเป็นพนักงานของบริษัทฯ ตามกระบวนการสมัครงาน

5.2 เพื่อการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การคุ้มครองแรงงานประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การประเมินความสามารถในการทำงาน

5.3 เพื่อการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน

บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัทฯ ไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้

วัตถุประสงค์และรายละเอียดที่จะแจ้งต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสถานะของท่านว่าเป็นคู่ธุรกิจ ผู้สมัครงาน พนักงาน ปัจจุบัน หรืออดีตพนักงาน

สำหรับคู่ธุรกิจ

บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับพันธะสัญญาบริการ หรือสัญญาอื่นใด ระหว่าง ท่านกับบริษัทฯ รวมถึงวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และหรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ของบริษัทฯ ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน

 

สำหรับผู้สมัครงาน

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็น เพื่อประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครงานต่อ ตำแหน่งงาน และเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ

 

สำหรับพนักงานปัจจุบัน

บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับพันธะสัญญาการจ้างงานระหว่างท่านกับบริษัทฯ หรือคู่ธุรกิจ รวมถึงวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และหรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัทฯ ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน

 

สำหรับอดีตพนักงาน / หลังจากที่ท่านได้ออกจากบริษัท

หลังจากที่ท่านได้สิ้นสุดการจ้างงานกับบริษัทฯ บริษัทฯอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อจะดำเนินการตามภาระผูกพันทางธุรกิจ

 

 

6. การเปิดเผยข้อมูลของท่าน

6.1 ภายในบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจจะมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ เฉพาะที่เกี่ยวข้อง และมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ของบริษัทฯ การบริหารจัดการ และเพื่อการสื่อสารภายในบริษัท โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของบริษัท อาจจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยเป็นไปตามความจำเป็น

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารงานบุคคล หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น ๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ

ผู้บริหาร หรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของท่าน ที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือการตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานบุคคล

ฝ่ายหรือทีมสนับสนุนต่าง ๆ เช่น IT

6.2 ภายนอกบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการส่งต่อให้กับองค์กรภายนอก เพื่อที่จะช่วยให้ท่านเข้าใจว่าองค์กรเหล่านั้นเป็นใครบ้าง บริษัทฯ ขอแจ้งรายชื่อพอสังเขป ดังนี้

ผู้ให้บริการภายนอก : ได้แก่ องค์กร และคู่สัญญาช่วงขององค์กรผู้ให้บริการภายนอก ที่ได้ให้บริการด้านสารสนเทศและ/หรือ ให้การสนับสนุน ตัวอย่างเช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนสำรองเลียงชีพ และระบบด้านการสวัสดิการต่างๆ ผู้ให้บริการด้านการประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ, ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม, การประเมินผลเพื่อการบริหารจัดการองค์กร

เมื่อบริษัทฯ ใช้บริการจากบุคคลที่สาม บริษัทฯ จะต้องให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการปกป้องโดยมาตรการด้านเทคนิคและองค์กรที่เหมาะสม

ที่ปรึกษามืออาชีพของบริษัทฯ : อาทิเช่น ผู้ตรวจสอบ Audit, ที่ปรึกษา

คู่ธุรกิจ : บริษัทฯ อาจจะต้องนำส่งข้อมูลของท่านกับคู่ธุรกิจเพื่อยืนยันตัวตนและเพื่อพิจารณาสัมภาษณ์งาน

หน่วยงานรัฐ : บริษัทฯ อาจจะนำส่งข้อมูลของท่านกับองค์กรรัฐ อาทิเช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมบังคับคดี กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน เพื่อให้เป็นไปตามข้อร้องขอที่เป็นไปตามกฎหมาย โดยเราจะนำส่งเฉพาะ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามสิ่งที่เราคิดเห็นว่ามีความจำเป็นต้องทำ

องค์กรหรือบุคคลภายนอก : ในบางกรณีบริษัทฯ ได้ยืนยันข้อมูลของท่าน ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการ ติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน เช่น การสมัครหรือใช้บริการ ด้านสินเชื่อการสมัครงาน โดยบริษัทฯ จะยืนยันเฉพาะสถานะภาพการเป็นพนักงาน และข้อมูลอื่น ๆ ตามที่ท่านได้เปิดเผยกับองค์กรหรือบุคคลภายนอกดังกล่าวไว้เท่านั้น

รวมถึงในกรณีที่เราได้รับหนังสือยินยอมจากท่าน เราอาจจะมีการเปิดเผยข้อมูลของท่านให้กับนายจ้างใหม่ เพื่อการ รับรองสภาพการจ้างงานเดิม หรือการให้ข้อมูลของท่านกับสถาบันการศึกษาที่ท่านเคยศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาหรือโครงการวิจัยคุณภาพบัณฑิต

ทั้งนี้ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ที่จะไม่เปิดเผยการให้ข้อมูลดังกล่าวกับองค์กรหรือหน่วยงานภายนอกเมื่อไรก็ได้โดยแจ้งความประสงค์กับทางบริษัทฯ ได้

7. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

7.1 บริษัทฯ ปกป้องข้อมูลของท่านอย่างไร ?

บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่เหมาะสมทางด้านเทคนิคและการบริหารองค์กร เพื่อที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อเราต้องโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลที่สาม เราจะทำต่อเมื่อเรามีระบบการป้องกันที่เหมาะสม เพื่อที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

7.2 ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เท่าที่มีความจำเป็นด้วยวัตถุประสงค์ในการที่เราได้รวบรวม เก็บรักษาโดยทั่วไปก็จะเป็นไปตามระยะเวลาที่ท่านได้ถูกจ้างงาน หรือมีสัญญาจ้างกับทางบริษัท บวกกับระยะเวลาที่เป็นไปตาม ระเบียบกฎหมายที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลหลังจากที่สัญญาได้สิ้นสุดไป ตัวอย่างเช่น ข้อมูลด้านภาษี จำเป็นต้องเก็บอย่างน้อย 5 ปี รวมถึงประวัติการทำงานของท่านเราจำเป็นต้องเก็บอย่างน้อย 10 ปี เพื่อจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือข้อโต้แย้ง เกี่ยวกับท่าน หรือคนอื่น ๆ เนื่องจากบริษัทฯ มีภาระผูกพันด้านกฎหมายที่ต้องให้ข้อมูล หรือเพื่อปกป้องบริษัทฯ โดยการนำ หรือโต้แย้งการเรียกร้องนั้น ๆ

8. สิทธิของท่าน

ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

8.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับ บริษัทฯ ได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ

8.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วน บุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัท ทั้งนี้บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำขอของท่านหากการเข้าถึงและขอรับสำเนา ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลที่ ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

8.3 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุผลบางประการ เว้นแต่เป็นกรณีที่ขัดต่อกฎหมายหรือกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

8.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยเหตุผลบางประการได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูล หรือต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

8.5 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

   ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลของท่าน หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยเหตุผลบางประการได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษา ข้อมูลดังกล่าว

8.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

   ท่านมีสิทธิในการขอให้เราแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ หากท่านเป็นพนักงานปัจจุบันของ บริษัทฯ ท่านสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ด้วยตนเอง ผ่านระบบของบริษัทฯ หรือดำเนินการกรอกเอกสารตามขั้นตอนดำเนินการของบริษัทฯ

ท่านสามารถยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้ ทั้งนี้ท่านไม่จำเป็นต้องเสีย ค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยบริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าว

9. ช่องทางการติดต่อ

บริษัท เมตา พีเพิล จำกัด ( บริษัทฯ ) 944 มิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ ห้องเลขที่ 709, 710 ถ.พระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โทร 083-099-0570

10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายและแนวปฏิบัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายบริษัทฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบโดยเผยแพร่ผ่านการประกาศที่เหมาะสม

จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566